สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 29
อย่าให้คำเหล่านี้ "อุตส่าห์เลี้ยงดูมาจนโตป่านนี้" "คลอดแกมา" "อุ้มท้องมา" "บุญคุณที่เกิดแกมาชาตินี้ก็ใช้ไม่หมด" มาทำให้คุณต้องขังตัวเองไว้ในกรงแห่งความทุกข์ครับ อย่าให้พวกเขามาบงการชีวิตของคุณเอง
1. คนเป็นพ่อเป็นแม่ ถ้าคิดจะมีลูกแล้ว เขาก็ต้องเข้าใจว่าเป็น "หน้าที่" ของเขาที่จะต้องเลี้ยงดู "ลูก" ที่พวกเขาสร้างขึ้นมาให้ดีที่สุด เลี้ยงดูจนเติบโตที่จะเลี้ยงดูตัวเองได้ นั่นคือ "หน้าที่" ที่พวกเขาต้องทำ ไม่มีใครบังคับให้พวกเขามีเพศสัมพันธ์แล้วเกิดเรามา มันเป็นความต้องการของพวกเขาเองทั้งนั้น ดังนั้นไม่ต้องรำเลิกบุญคุณเพราะมันคือสิ่งที่ "พวกเขาเลือกเอง"
2. เมื่อชีวิตคนคนนึงเกิดถูกกำหนดให้เกิดมาแล้ว "ชีวิตนั้นเป็นของเขาเอง" ไม่ใช่ของใครอื่น แม้แต่พ่อแม่ก็ไม่มีสิทธิ์มาอ้างว่า ชั้นคลอดแกมาชั้นเป็นเจ้าชีวิตแก ถ้าจะทำอย่างนั้น "ไม่ต้องให้กำเนิดใครมา" จะยังดีเสียกว่า ดังนั้นเมื่อโตพอแล้ว ชีวิตที่เหลืออยู่ก็เป็นของเราเอง ไม่ใช่ของใคร ไม่งั้นพ่อแม่พวกนั้นก็ไม่ต่างกับสร้างคุณมาเพื่อให้เป็นเครื่องจักรทำงานหาเงินเลี้ยงดูพวกเขาเมื่อพร้อมใช้งานหรอก
3. ถ้าพ่อแม่เลี้ยงดูลูกตัวเอง "ดีจริง" แล้ว เชื่อเถอะ ไม่มีลูกคนไหนไม่รักพวกเขา คนทุกคนรักพ่อแม่ตัวเองอยู่แล้วโดยสัญชาติญาณ เขาจะให้ความรักกลับไปเองในยามที่เขาเติบโตแล้ว
นี่คือสิ่งที่ควรจะเป็นไปครับ พ่อแม่คนไหนเลี้ยงลูกแล้วทำตัวราวกับลูกของตัวเองเป็นสมบัติที่ตัวเองสร้างขึ้น เป็นเจ้าชีวิต รังแต่จะสูบทุกอย่างของลูก ผมว่าเป็นพ่อแม่ที่แย่มาก
พ่อแม่ผมเลี้ยงผมมาด้วยความเชื่อข้างต้นว่า "ชีวิตของผมก็คือชีวิตของผมเอง"
พ่อแม่จะสอนผมว่า ผมเกิดมาจากความรักของพ่อและแม่
พ่อและแม่ไม่ต้องการอะไรตอบแทนทั้งนั้น
พ่อแม่ให้สิทธิ์ขาดในการกำหนดเส้นทางชีวิตของผมเองตั้งแต่เด็ก
ไม่ว่าจะเป็นการเลือกเรียน กิจกรรม หรืออะไรก็ตาม
พวกเขาจะคอยดูอยู่ห่างๆ เฝ้ามอง ปกป้อง ดูแล และให้คำแนะนำเมื่อยามจำเป็น
พ่อและแม่ไม่เคยร้องขออะไรจากผมเลยแม้แต่อย่างเดียว
พวกเค้ารู้ว่าพวกเค้ามีหน้าที่ดูแลตัวเอง และเลี้ยงดูผมให้พร้อมที่จะเป็นพ่อคนต่อไป
สิ่งที่พวกเขาเคยขอผมอย่างเดียวคือ ขอให้ผมใช้ชีวิต เติบโตเป็นคนที่ดี
และมีขีวิตต่อไปบนลำแข้งของตัวเองได้เมื่อยามที่พวกเขาจากไป
ทุกวันนี้
ผมปลูกบ้านเป็นของตัวเอง ผมสร้างห้องไว้สำหรับพ่อแม่ (ถึงแม้พวกเค้าจะมีบ้านหลังใหญ่อยู่แล้วก็เหอะ)
ผมทำงานหาเงิน ผมก็ส่งให้พวกเขาใช้ตามกำลังที่ผมมี (ถึงแม้พวกเค้าจะรวยกันอยู่แล้วก็เหอะ)
ผมจะหาเวลาพาพวกเค้าไปเที่ยวพักผ่อนเสมอ (ถึงแม้พวกเค้าจะบอกว่าไม่เป็นไร ไปทำอะไรที่อยากทำก็ตามที)
ที่ผมทำไปทุกอย่างไม่ใช่เพราะ "บุญคุณ" ที่พวกเค้ามีต่อผม เพราะพวกเรา (พ่อแม่ และ ผมเอง) ไม่เคยคิดว่าการที่ผมเกิดมา เค้าเลี้ยงดูผม มันเป็นบุญคุณอะไร แต่ที่พวกเขาทำให้เพราะพวกเขารักผม และที่ผมทำให้พวกเขาทุกวันนี้ก็เพราะผมรักพวกเขา
บุญคุณ มันก็แค่เครื่องมือที่พวกพ่อแม่ที่เห็นแก่ตัวชอบใช้กัน ไม่ได้รักลูกตัวเองจริงๆ หรอก
เพราะรักที่แท้จริง มันคือ "รักที่ให้โดยไม่หวังผลตอบแทน" ต่างหาก
Tell my mother,
Tell my father
I've done the best I can
To make them realize
This is my life
I hope they understand
I'm not angry, I'm just saying...
Sometimes goodbye is a second chance
เพราะท้ายที่สุด ชีวิตของคุณก็คือชีวิตของคุณเองครับ
1. คนเป็นพ่อเป็นแม่ ถ้าคิดจะมีลูกแล้ว เขาก็ต้องเข้าใจว่าเป็น "หน้าที่" ของเขาที่จะต้องเลี้ยงดู "ลูก" ที่พวกเขาสร้างขึ้นมาให้ดีที่สุด เลี้ยงดูจนเติบโตที่จะเลี้ยงดูตัวเองได้ นั่นคือ "หน้าที่" ที่พวกเขาต้องทำ ไม่มีใครบังคับให้พวกเขามีเพศสัมพันธ์แล้วเกิดเรามา มันเป็นความต้องการของพวกเขาเองทั้งนั้น ดังนั้นไม่ต้องรำเลิกบุญคุณเพราะมันคือสิ่งที่ "พวกเขาเลือกเอง"
2. เมื่อชีวิตคนคนนึงเกิดถูกกำหนดให้เกิดมาแล้ว "ชีวิตนั้นเป็นของเขาเอง" ไม่ใช่ของใครอื่น แม้แต่พ่อแม่ก็ไม่มีสิทธิ์มาอ้างว่า ชั้นคลอดแกมาชั้นเป็นเจ้าชีวิตแก ถ้าจะทำอย่างนั้น "ไม่ต้องให้กำเนิดใครมา" จะยังดีเสียกว่า ดังนั้นเมื่อโตพอแล้ว ชีวิตที่เหลืออยู่ก็เป็นของเราเอง ไม่ใช่ของใคร ไม่งั้นพ่อแม่พวกนั้นก็ไม่ต่างกับสร้างคุณมาเพื่อให้เป็นเครื่องจักรทำงานหาเงินเลี้ยงดูพวกเขาเมื่อพร้อมใช้งานหรอก
3. ถ้าพ่อแม่เลี้ยงดูลูกตัวเอง "ดีจริง" แล้ว เชื่อเถอะ ไม่มีลูกคนไหนไม่รักพวกเขา คนทุกคนรักพ่อแม่ตัวเองอยู่แล้วโดยสัญชาติญาณ เขาจะให้ความรักกลับไปเองในยามที่เขาเติบโตแล้ว
นี่คือสิ่งที่ควรจะเป็นไปครับ พ่อแม่คนไหนเลี้ยงลูกแล้วทำตัวราวกับลูกของตัวเองเป็นสมบัติที่ตัวเองสร้างขึ้น เป็นเจ้าชีวิต รังแต่จะสูบทุกอย่างของลูก ผมว่าเป็นพ่อแม่ที่แย่มาก
พ่อแม่ผมเลี้ยงผมมาด้วยความเชื่อข้างต้นว่า "ชีวิตของผมก็คือชีวิตของผมเอง"
พ่อแม่จะสอนผมว่า ผมเกิดมาจากความรักของพ่อและแม่
พ่อและแม่ไม่ต้องการอะไรตอบแทนทั้งนั้น
พ่อแม่ให้สิทธิ์ขาดในการกำหนดเส้นทางชีวิตของผมเองตั้งแต่เด็ก
ไม่ว่าจะเป็นการเลือกเรียน กิจกรรม หรืออะไรก็ตาม
พวกเขาจะคอยดูอยู่ห่างๆ เฝ้ามอง ปกป้อง ดูแล และให้คำแนะนำเมื่อยามจำเป็น
พ่อและแม่ไม่เคยร้องขออะไรจากผมเลยแม้แต่อย่างเดียว
พวกเค้ารู้ว่าพวกเค้ามีหน้าที่ดูแลตัวเอง และเลี้ยงดูผมให้พร้อมที่จะเป็นพ่อคนต่อไป
สิ่งที่พวกเขาเคยขอผมอย่างเดียวคือ ขอให้ผมใช้ชีวิต เติบโตเป็นคนที่ดี
และมีขีวิตต่อไปบนลำแข้งของตัวเองได้เมื่อยามที่พวกเขาจากไป
ทุกวันนี้
ผมปลูกบ้านเป็นของตัวเอง ผมสร้างห้องไว้สำหรับพ่อแม่ (ถึงแม้พวกเค้าจะมีบ้านหลังใหญ่อยู่แล้วก็เหอะ)
ผมทำงานหาเงิน ผมก็ส่งให้พวกเขาใช้ตามกำลังที่ผมมี (ถึงแม้พวกเค้าจะรวยกันอยู่แล้วก็เหอะ)
ผมจะหาเวลาพาพวกเค้าไปเที่ยวพักผ่อนเสมอ (ถึงแม้พวกเค้าจะบอกว่าไม่เป็นไร ไปทำอะไรที่อยากทำก็ตามที)
ที่ผมทำไปทุกอย่างไม่ใช่เพราะ "บุญคุณ" ที่พวกเค้ามีต่อผม เพราะพวกเรา (พ่อแม่ และ ผมเอง) ไม่เคยคิดว่าการที่ผมเกิดมา เค้าเลี้ยงดูผม มันเป็นบุญคุณอะไร แต่ที่พวกเขาทำให้เพราะพวกเขารักผม และที่ผมทำให้พวกเขาทุกวันนี้ก็เพราะผมรักพวกเขา
บุญคุณ มันก็แค่เครื่องมือที่พวกพ่อแม่ที่เห็นแก่ตัวชอบใช้กัน ไม่ได้รักลูกตัวเองจริงๆ หรอก
เพราะรักที่แท้จริง มันคือ "รักที่ให้โดยไม่หวังผลตอบแทน" ต่างหาก
Tell my mother,
Tell my father
I've done the best I can
To make them realize
This is my life
I hope they understand
I'm not angry, I'm just saying...
Sometimes goodbye is a second chance
เพราะท้ายที่สุด ชีวิตของคุณก็คือชีวิตของคุณเองครับ
แสดงความคิดเห็น
การไม่แต่งงานจะทำให้ชีวิตล้มจมขนาดนั้นเลยเหรอคะ
ก่อนที่จะเริ่มเรียนโทคุณพ่อก็ได้พูดว่า
"เราเป็นผู้หญิงจะเรียนทำไมสูงๆ แต่งงานมีลูกจะดีกว่า"
ทีแรกไม่ใช่เด็กเรียนหรือต้องการจบสูงอะไรเลยค่ะ
เพียงแต่ว่าเราไม่อยากอยู่ให้คุณพ่อพูดซ้ำๆย้ำๆว่าเมื่อไรจะแต่งงาน
พอเรียนจบมาก็ต้องกลับมาอยู่ไทยเรื่องนี้ก็ไม่พ้นไป
เป็นความรู้สึกที่กดดันมากนะค่ะจริงๆ
คือคุณพ่อต้องการให้เราแต่งงานอย่างจริงๆจังถึงขนาดมีการดูตัว
เราก็บอกแล้วแต่คุณพ่อตัดสินใจเลย
ความเป็นจริงแล้วเรารักอิสระมาก ทำงานเองได้ดูแลตัวเองได้
เรียนเมืองนอกมาตั้งแต่เด็กเลยค่ะและดูแลตัวเองมาเสมอ
คุณพ่อก็นั่งคุยอย่างเป็รทางการทุกวันว่าไม่แต่งงานเราจะไม่เจริญ
ไม่มีลูก มีเงินทองไปก็ไร้ค่าตายไปก็ไม่มีคนมากราบไหว้
หลานๆมาแย่งสมบัติไม่เห็นหัวไม่รักเราจริง
คือการอยู่คนเดียวมันเลวร้ายขนาดนั้นเลยเหรอค่ะ
ก็เข้าใจนะคะว่าท่านเป็นห่วงอนาคตของเรา
แต่นี่มันเหมือนเป็ยการบังคับอย่างรุนแรง
เหตุการณ์นี้มันกดดันชีวิตให้เครียดมากจริงๆนะคะ
พอจะพูดย้งไงให้คุณพ่อเค้าเปลี่ยนความคิด
ปล.จขกทเป็นลูกคนจีนแท้ๆและไม่ใช่ลูกคนเดียวนะคะมีพี่น้อง5คนและก็มีคนแต่งงานแล้วด้วย