การไม่แต่งงานจะทำให้ชีวิตล้มจมขนาดนั้นเลยเหรอคะ

กระทู้คำถาม
ปีนี้ย่างเข้า24คะพึ่งเรียนจบโทมา
ก่อนที่จะเริ่มเรียนโทคุณพ่อก็ได้พูดว่า
"เราเป็นผู้หญิงจะเรียนทำไมสูงๆ แต่งงานมีลูกจะดีกว่า"

ทีแรกไม่ใช่เด็กเรียนหรือต้องการจบสูงอะไรเลยค่ะ
เพียงแต่ว่าเราไม่อยากอยู่ให้คุณพ่อพูดซ้ำๆย้ำๆว่าเมื่อไรจะแต่งงาน

พอเรียนจบมาก็ต้องกลับมาอยู่ไทยเรื่องนี้ก็ไม่พ้นไป
เป็นความรู้สึกที่กดดันมากนะค่ะจริงๆ
คือคุณพ่อต้องการให้เราแต่งงานอย่างจริงๆจังถึงขนาดมีการดูตัว
เราก็บอกแล้วแต่คุณพ่อตัดสินใจเลย

ความเป็นจริงแล้วเรารักอิสระมาก ทำงานเองได้ดูแลตัวเองได้
เรียนเมืองนอกมาตั้งแต่เด็กเลยค่ะและดูแลตัวเองมาเสมอ
คุณพ่อก็นั่งคุยอย่างเป็รทางการทุกวันว่าไม่แต่งงานเราจะไม่เจริญ
ไม่มีลูก มีเงินทองไปก็ไร้ค่าตายไปก็ไม่มีคนมากราบไหว้
หลานๆมาแย่งสมบัติไม่เห็นหัวไม่รักเราจริง
คือการอยู่คนเดียวมันเลวร้ายขนาดนั้นเลยเหรอค่ะ
ก็เข้าใจนะคะว่าท่านเป็นห่วงอนาคตของเรา
แต่นี่มันเหมือนเป็ยการบังคับอย่างรุนแรง

เหตุการณ์นี้มันกดดันชีวิตให้เครียดมากจริงๆนะคะ
พอจะพูดย้งไงให้คุณพ่อเค้าเปลี่ยนความคิด

ปล.จขกทเป็นลูกคนจีนแท้ๆและไม่ใช่ลูกคนเดียวนะคะมีพี่น้อง5คนและก็มีคนแต่งงานแล้วด้วย
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 29
อย่าให้คำเหล่านี้ "อุตส่าห์เลี้ยงดูมาจนโตป่านนี้" "คลอดแกมา" "อุ้มท้องมา" "บุญคุณที่เกิดแกมาชาตินี้ก็ใช้ไม่หมด"​ มาทำให้คุณต้องขังตัวเองไว้ในกรงแห่งความทุกข์ครับ อย่าให้พวกเขามาบงการชีวิตของคุณเอง

1. คนเป็นพ่อเป็นแม่ ถ้าคิดจะมีลูกแล้ว เขาก็ต้องเข้าใจว่าเป็น "หน้าที่" ของเขาที่จะต้องเลี้ยงดู "ลูก"​ ที่พวกเขาสร้างขึ้นมาให้ดีที่สุด เลี้ยงดูจนเติบโตที่จะเลี้ยงดูตัวเองได้ นั่นคือ "หน้าที่" ที่พวกเขาต้องทำ ไม่มีใครบังคับให้พวกเขามีเพศสัมพันธ์แล้วเกิดเรามา มันเป็นความต้องการของพวกเขาเองทั้งนั้น ดังนั้นไม่ต้องรำเลิกบุญคุณเพราะมันคือสิ่งที่ "พวกเขาเลือกเอง"

2. เมื่อชีวิตคนคนนึงเกิดถูกกำหนดให้เกิดมาแล้ว "ชีวิตนั้นเป็นของเขาเอง" ไม่ใช่ของใครอื่น แม้แต่พ่อแม่ก็ไม่มีสิทธิ์มาอ้างว่า ชั้นคลอดแกมาชั้นเป็นเจ้าชีวิตแก ถ้าจะทำอย่างนั้น "ไม่ต้องให้กำเนิดใครมา" จะยังดีเสียกว่า ดังนั้นเมื่อโตพอแล้ว ชีวิตที่เหลืออยู่ก็เป็นของเราเอง ไม่ใช่ของใคร ไม่งั้นพ่อแม่พวกนั้นก็ไม่ต่างกับสร้างคุณมาเพื่อให้เป็นเครื่องจักรทำงานหาเงินเลี้ยงดูพวกเขาเมื่อพร้อมใช้งานหรอก

3. ถ้าพ่อแม่เลี้ยงดูลูกตัวเอง "ดีจริง" แล้ว เชื่อเถอะ ไม่มีลูกคนไหนไม่รักพวกเขา คนทุกคนรักพ่อแม่ตัวเองอยู่แล้วโดยสัญชาติญาณ เขาจะให้ความรักกลับไปเองในยามที่เขาเติบโตแล้ว

นี่คือสิ่งที่ควรจะเป็นไปครับ พ่อแม่คนไหนเลี้ยงลูกแล้วทำตัวราวกับลูกของตัวเองเป็นสมบัติที่ตัวเองสร้างขึ้น เป็นเจ้าชีวิต รังแต่จะสูบทุกอย่างของลูก ผมว่าเป็นพ่อแม่ที่แย่มาก

พ่อแม่ผมเลี้ยงผมมาด้วยความเชื่อข้างต้นว่า "ชีวิตของผมก็คือชีวิตของผมเอง"
พ่อแม่จะสอนผมว่า ผมเกิดมาจากความรักของพ่อและแม่
พ่อและแม่ไม่ต้องการอะไรตอบแทนทั้งนั้น

พ่อแม่ให้สิทธิ์ขาดในการกำหนดเส้นทางชีวิตของผมเองตั้งแต่เด็ก
ไม่ว่าจะเป็นการเลือกเรียน กิจกรรม หรืออะไรก็ตาม
พวกเขาจะคอยดูอยู่ห่างๆ เฝ้ามอง ปกป้อง ดูแล และให้คำแนะนำเมื่อยามจำเป็น

พ่อและแม่ไม่เคยร้องขออะไรจากผมเลยแม้แต่อย่างเดียว
พวกเค้ารู้ว่าพวกเค้ามีหน้าที่ดูแลตัวเอง และเลี้ยงดูผมให้พร้อมที่จะเป็นพ่อคนต่อไป

สิ่งที่พวกเขาเคยขอผมอย่างเดียวคือ ขอให้ผมใช้ชีวิต เติบโตเป็นคนที่ดี
และมีขีวิตต่อไปบนลำแข้งของตัวเองได้เมื่อยามที่พวกเขาจากไป

ทุกวันนี้
ผมปลูกบ้านเป็นของตัวเอง ผมสร้างห้องไว้สำหรับพ่อแม่ (ถึงแม้พวกเค้าจะมีบ้านหลังใหญ่อยู่แล้วก็เหอะ)
ผมทำงานหาเงิน ผมก็ส่งให้พวกเขาใช้ตามกำลังที่ผมมี (ถึงแม้พวกเค้าจะรวยกันอยู่แล้วก็เหอะ)
ผมจะหาเวลาพาพวกเค้าไปเที่ยวพักผ่อนเสมอ (ถึงแม้พวกเค้าจะบอกว่าไม่เป็นไร ไปทำอะไรที่อยากทำก็ตามที)

ที่ผมทำไปทุกอย่างไม่ใช่เพราะ "บุญคุณ" ที่พวกเค้ามีต่อผม เพราะพวกเรา (พ่อแม่ และ ผมเอง) ไม่เคยคิดว่าการที่ผมเกิดมา เค้าเลี้ยงดูผม มันเป็นบุญคุณอะไร แต่ที่พวกเขาทำให้เพราะพวกเขารักผม และที่ผมทำให้พวกเขาทุกวันนี้ก็เพราะผมรักพวกเขา

บุญคุณ มันก็แค่เครื่องมือที่พวกพ่อแม่ที่เห็นแก่ตัวชอบใช้กัน ไม่ได้รักลูกตัวเองจริงๆ หรอก
เพราะรักที่แท้จริง มันคือ "รักที่ให้โดยไม่หวังผลตอบแทน" ต่างหาก

Tell my mother,
Tell my father
I've done the best I can
To make them realize
This is my life
I hope they understand
I'm not angry, I'm just saying...
Sometimes goodbye is a second chance

เพราะท้ายที่สุด ชีวิตของคุณก็คือชีวิตของคุณเองครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่